เมื่อจีนและฮ่องกงจับมือกัน Open Data ออกแบบนโยบายเชิงกลยุทธ์ด้านข้อมูล สำรวจแนวทางอัดฉีดโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี พร้อมทั้งวิธีคิดการขับเคลื่อนประเทศ อ่านต่อที่นี่ www.lsesu-ucleconsconference.com เมื่อพูดถึง ‘ฮ่องกง’ หลายคนรู้จักในฐานะที่เป็น ‘ศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำของโลก’ ที่โดดเด่นในเรื่องระบบนิเวศทางการเงิน ทั้งในเรื่องของเครื่องมือทางการเงินและแหล่งรวมสถาบันการเงินจากทั่วโลกที่เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่โดยใช้ฮ่องกงเป็นฐานทัพเจาะตลาดเอเชีย และขณะเดียวกันฮ่องกงเองยังเป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดเส้นทางการลงทุนสู่ ‘จีน’ อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา ฮ่องกงยังมีบทบาทที่โดดเด่นในเรื่อง ‘ธุรกิจเทคโนโลยี’ ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อเหล่าบริษัทสตาร์ทอัพสายเทค ตลอดจนการผสานความร่วมมือกับจีนแผ่นดินใหญ่ ปรับทิศทางนโยบายที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยมองว่านี่คือส่วนสำคัญที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถต่อการแข่งขันในระดับโลกท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ จนเรียกได้ว่า การเงินและเทคโนโลยีทำให้ฮ่องกงและจีนต่างจับมือกันเหนียวแน่น
ผู้สื่อข่าว Thairath Money เดินทางเข้าร่วมงาน Digital Economy Summit 2024 “งานประชุมสุดยอดเศรษฐกิจดิจิทัลเผยวิสัยทัศน์นวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งเอเชีย” ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (HKCEC) ช่วงวันที่ 12-13 เมษายน 2024 โดยมี สำนักงานนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมรัฐบาลฮ่องกง (ITIB) สํานักงานสารสนเทศรัฐบาลฮ่องกง และศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Cyberport เป็นผู้ร่วมกันจัด เพื่อรับฟังวิสัยทัศน์และข้อมูลเชิงลึกจากทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาบนเครือข่ายความร่วมมือของฮ่องกง จีนและภูมิภาค เพื่อสำรวจแนวทางอัดฉีดโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี พร้อมทั้งวิธีคิดการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Smarter Technovation for All: Forging a Sustainable Future” ที่จะเน้นเจาะลึกไปที่นวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดภูมิทัศน์เมืองอัจฉริยะเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เชื่อมโยงและยืดหยุ่น โดยภายในงานได้รวมตัวผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากบริษัทชั้นน้ำทั่วเอเชีย อาทิ ภาคเทคโนโลยี Ant Group, Alibaba, Huawei, Nvidia, Cisco, AirAsia Move, AECOM, JD Logistics ภาคการเงิน Bank of China, Paypal, Visa, Haskey Capital, Chainlink Labs และอื่นๆ อีกมากมาย มาร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และข้อมูลเชิงลึกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลรวมแล้วกว่า 50 เซสชั่นตลอดทั้งงาน สำหรับปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ก็ได้ร่วมโชว์นวัตกรรมด้วยเช่นเดียวกัน |